หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ปรับปรุงช่องรับลมจากภายนอกใหม่

เดิมใช้สังกะสีปิดตายเลยทำให้ใช้งานไม่ได้





ตอนนี้ดีหน่อยมีร้านทำมาขายสำเร็จรูปแล้ว
ด้านบนมีรูปเจาะให้หลายรูมากทำให้เปิดรับลมจากภายนอกได้แล้ว
แต่ต้องดัดเข้ารูปบ้างเล็กน้อย

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ติดตามการใช้แบตFB


ติดตามการใช้งานแบตเตอรี่ลูกนี้
เริ่มใช้วันที่ 6 เม.ย. 66 เลขกิโลเมตรที่ 339879 CCA 480
วันนี้วันที่ 22 ส.ค. 67 เลขกิโลเมตรที่ 392300 วัดตอนดับเครื่องใหม่ ๆ
เท่ากับว่าผ่านไป 1 ปี 4 เดือน ใช้ไป 52,421 กิโลเมตร ตอนนี้ ccaลดลงเหลือ 405
 

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เติมน้ำมันทุกครั้ง ควรปิดฝาถังน้ำมันเอง!!!





สีพองจากการโดนน้ำมันแก๊สโซฮอล 95

วันนั้นผมไปส่งลูกเสร็จแล้วเติมน้ำมันเต็มถังแล้วก็ขับกลับบ้าน ถึงบ้านประมาณ 9 โมงได้มั่งครับ และก็อยู่ในบ้านพอ บ่าย4โมง ผมก็ออกมาที่รถเพื่อที่จะเติมน้ำกลั่นที่แบตเตอรี่ และเติมหัวเชื้อน้ำมันเบนซินที่ซื้อมาจากปั้ม พอเดินมาถึงท้ายรถตกใจเลย สีปูดฟอง แล้วสีนิ่มจะเป็นเยนลี่เลย ผมรีบเอาน้ำลาดไปก่อน เพราะคิดอะไรไม่ออกเลย ไม่คิดว่าจะโชคดีอะไรแบบนี้ และก็ติดต่อบริษัท ปั้มน้ำมัน ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากก็ได้คุยกัน แล้วก็วางสายกันไป และอีกวันก็มีการติดต่อกลับมาอีกว่าสะดวกไปที่ปั้ม หรือเปล่า เพราะจะได้คุยกันอีกที เพื่ออาจจะช่วยเหลือให้ได้บ้างยังไง ส่วนเรื่องการช่วยเหลือผม ยังไม่ได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้น 
แต่ได้ความรู้หลายเรื่องครับ 
1. ถ้าสีเดิมโรงงานโดนน้ำมันเบนซิน ไม่เป็นแบบนี้ครับ เพราะแล็กเกอร์โรงงานมันหนาและดีกว่า
2. เวลาเติมน้ำมันควรจะปิดฝาถังเอง (ปกติผมเติมแก๊สจะตรวจสอบจุกปิดแก๊สเพราะมันหล่นหายมาหลายอันแล้วเลยต้องตรวจสอบทุกครั้ง)
3. ถ้ามีอะไรผิดปกติ ถ่ายวีดีโอครับ พยายามถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานครับ

 

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ปัญหาการจูนแก๊ส #1

จากรูปการเก็บค่าแก๊สผิดปกติ ช่องสีฟ้าทางซ้ายไม่ขึ้นเต็ม ลองกี่ครั้งก็ไม่เคยเติม เพราะเวลาปรับค่าต่าง ๆ ใช้ไฟล์เดิม ๆ และปรับแก้ไขที่หน้าปรับแก้ไข วันนี้ลองจาดค่าต่าง ๆ ไว้ แล้วคืนค่าโรงงาน และก็ใส่ค่าเดิมให้ใกล้เคียง แล้วลองวิ่งดู สรุป เป็นปกติแล้ว ใครเจอปัญหาแบบนี้ลองแก้ไข โดยเริ่มจูนใหม่ ไม่เอาไฟล์เดิมมาใช้ คงมีอะไร ผิดปกติอยู่ในไฟล์นั้น  ต้องเริ่มทำใหม่หมด จะดีที่สุด เวลาจูนแก๊ส ก็จะได้ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ครับ

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ท่อน้ำของระบบหล่อเย็น ที่เสียหายแบบไม่รู้ตัว

การดูแลเรื่องระบบน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ผมใช้น้ำยาของศูนย์ตลอดไม่เคยใช้น้ำเปล่า แต่สุดท้ายก็มีปัญหาเรื่องสนิมกัดกร่อนจนได้ ต้องอธิบายถึงที่มาว่าผมทราบได้ยังไงก่อน
ผมใช้เชื้อเพลิง lpg ด้วย ดังน้ำผมต้องดูแลหม้อต้มด้วย และผมก็เปลี่ยนท่อยางน้ำยาหล่อเย็นที่เข้าหม้อต้ม พอช่างถอดออกมาก็พบว่ามีสนิมแต่ไม่ใช่สีแดงมันของจะขาว ๆ หน่อยผมก็เลยเรียกไม่ถูกว่าจะเรียกมันว่าอะไร แต่ชั่งมันก่อน พอช่างเปลี่ยนท่อยางใหม่เจอปัญหาช่างยัดมันไม่เข้า เลยใส่ได้ไปแค่พออยู่ เนื่องจากตรงปากทางของท่อมันปูดบวม ถ้าดูจากในรูปจะเห็นว่าเป็นหลุม ๆ คือผมทำความสะอาดเอาสนิมเอาตะกรั่งออกหมดแล้วเลยเป็นดังภาพ และพอถ่ายรูปผมถึงเห็นว่ามันผูถึง2รูเลย ตอนแรกเห็นแค่รูเดียว รูใหญ่ ภาพสุดท้ายถ่ายสองกับแสงจะเห็นได้ว่ามีอีกรู ถ้าใครเติมน้ำเปล่าก็สังเกตตรงข้อต่อท่อยางด้วยนะครับ เผื่อว่าเริ่มมีคราบน้ำยาหล่อเย็นหรือคราบสนิมก็ตรวจสอบด้วยเผื่อจะผุมากแล้วรั่วกลางทางจะแย่เอานะครับ

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

แก้ไขเสาอากาศชั่วคราว

เสาอากาศของเรามันหุ้มด้วยวัสดุเหมือนยางผสม พอใช้ไปนาน ๆ มันก็จฃจะแตกแล้วเหลือแต่ใส่ในที่มีแกนเป็นพลาสติกแล้วมีขวดลวดหรือทองแดงพันเหมือนสปริงเอาไว้ ผมคลุมผ้ากันแดดแล้วทำให้เห็นว่าเสาอากาศมันแตกหัก เลยเก็บชิ้นส่วนเอาไว้ ตอนแรกก็ถอดออก ซึ่งฟังวิทยุได้อยู่นะ โดยไม่มีเสาอากาศพอวันนี้มีเวลาเลยลองเอาท่อหดสวมแล้วลนไฟเสร็จแล้วก็เอาไปใส่ไว้ทีเดิมมันก็จะแปลก ๆ ตามภาพครับ เผื่อถ้าใครจะประหยัดแล้วลองเปลี่ยนสีเสาอากาศก็ซื้อท่อหดมาสวมเล่นดูได้ก่อนที่มันจะหักแล้วชิ้นส่วนมันหายไปก็จะดีนะครับ

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

OBD2 ติดไว้ในรถเพื่ออะไร?

ถ้ากล่าวถึง OBD2 สำหรับคนขับรถทั่วไปไม่คิดอะไรมาก ก็คงไม่จำเป็นและไม่นึถถึง เพราะคิดว่าผู้ผลิตเค้าคิดมาให้หมดแล้ว เราก็ใช้ตามที่เค้าออกแบบมา แต่ก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความคิดต่างออกไป มันต้องทำให้รถดีขึ้นได้อีก หรือเค้าทำออกมาให้ใช้โดยทั่วไปบางจุดบางเรื่องก็ไม่จำเป็นถ้าเข้าศูนย์ตลอด ทางศูนย์บริการก็จะดูแลจะให้  แต่เมื่อเราจะดูแลเองหรือทำอะไรต่าง ๆ ให้มันดีขึ้นก็ต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ต่อเติม ติดตั้ง ต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งในที่นี้ผมก็จะพูดถึง OBD2 

ในความคิดของผม ซึ่งผมใช้ swift 1.2 ตัวแรก ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่เพราะบางคนก็จะบอกว่ามันก็มีมาตรวัดความร้อนอยู่แล้ว  แต่ผมคิดว่าเราก็ไม่สามารถดูมันได้ตลอดเวลา ถ้ามีอะไรมาเตือนเราว่าความร้อนผิดปกติก็จะดีกว่า แต่..... มันยังช่วยให้เรารู้ถึงความผิดปกติของวาล์วน้ำได้ด้วย เพราะปกติ ความร้อนจะขึ้น ๆ ลง ๆ ในช่วงนั้น ๆ เช่น ลงต่ำสุดที่ 85 สูงสุดที่ 90 หรือไม่ก็ 88 ถึง 90 และที่ผ่านมาตอนวาล์วน้ำมันตายความร้อนจะขึ้นสูงที่ 93 แต่ต่ำสุดก็ประมาณ 89 ซึ่งช่วงมันจะขยับขึ้น ทำให้ต้องดูเรื่องระบบน้ำว่ามีอะไรผิดปกติฝาหม้อน้ำหรือวาล์วน้ำมีปัญหาเปล่า  
และในเรื่องความร้อนของน้ำยาหม้อน้ำ เราสามารถตั้งเตือนให้ส่งเสียงได้ที่องศาที่เราต้องการ แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่ารถเราพัดลมหม้อน้ำจะทำงานที่กี่องศา ตอนไม่เปิดแอร์นะครับ สำหรับ swift ที่ผมใช้ประมาณ 97 องศาเริ่มทำงานแล้วหยุดทำงานเมื่อน้ำเริ่มอุณหภูมิลดลงมาที่ 93 องศา ดังนั้นเราสามารถตั้งได้ 2 แบบ ตือ แบบตอนเปิดแอร์ หรือแบบตอนไม่เปิดแอร์
หมายความว่าถ้าเราตั้ง แบบตอนเปิดแอร์ ก็คือ ตั้งให้เตือนที่ 92-93 องศา หมายความเราจะทราบได้ว่า มีความผิดปกติตั้งแต่เนิน ๆ อาจจะเป็นที่ระบบวาล์วน้ำ, ฝาหม้อน้ำ หรือระบบแอร์ ก็เป็นได้ แบบนี้ก็จะช่วยได้แต่เนิน ๆ แต่จะไม่เหมาะสำหรับเดินทางแบบขึ้นเขา เพราะมันจะเตือนเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะกล่าวให้ฟังต่อใปนี้ครับ
การตั้งค่าแบบตอนไม่เปิดแอร์ ในที่นี้หมายความถึงว่า พัดลมสเต็ปที่ 2 ครับ สเต็ปแรกจะทำตอนคอมแอร์สั่งให้ทำงาน ส่วนสเต็ปที่ 2 เมื่อความร้อนถึงจุดสูงสุดที่เครื่องยนต์จะรับได้ เพราะถ้ามากไปกว่านี้อาจจะส่งผลเสียหายได้ ในการตั้งค่าแบบนี้ผมแนะนำให้ตั้งที่ 96 องศา เพราะเวลาเราขับขึ้นทางลาดชันนาน ๆ จะทำให้ความร้อนขึ้นสูง เนื่องจากใช้รอบเครื่องสูง แต่ลมประทะกับแผงระบายความร้อนน้อยเกินกว่าที่จะลดอุณหภูมิลงได้ ซึ่งถ้าไม่มี obd2 เราก็จะไม่ทราบได้เลยว่ามันขึ้นไปมากน้อยแค่ไหนถ้าจะดูเข็มบางทีมันก็ไม่ทัน แต่ถ้าเรามีแล้วตั้งเตือนตามที่ผมแนะนำ ทำให้เรารู้ได้ว่าเราต้องมองความร้อนตลอดเลยตอนนี้ เพราะมันจะยังคงร้องเสียงดังจนลำคาญ เท่ากับว่าให้เราจอดพักสักหน่อยไม่ต้องดับเครื่องก็ได้ครับ แค่เปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อให้ลมระบายความร้อนหม้อนน้ำได้ดียิ่งขึ้นพอความร้อนกลับมาสู่สภาวะปกติแล้วค่อยไปต่อเพียงเท่านี้ เราก็ใช้รถได้อย่างปลอดภัย

ประโยชน์อีกอย่าง ตั้งเตือนความเร็วเกินที่เรากำหนดได้ ในส่วนนี้หลายคนอาจจะไม่จำเป็น แต่ถ้าใครที่ไม่อยากโดนใบสั่ง ก็ช่วยได้ แต่ก็แลกมากับความรำคาญ เพราะเราเลือกได้เพียงความเร็วเดียวที่จะให้แจ้งเตือน ถ้าวิ่งบนทางด่วน และใน กทม. เท่านั้นก็ไม่ยาก ตั้งไว้ที่ 115 หรือไม่ก็ 120 แต่ถ้าวิ่งต่างจังหวัด ไม่ได้แล้วลำบากต้องตัดสินใจว่าจะตั้งไว้ที่ความเร็วเท่าไหร่เพราะมีกล้องจับทั้ง 90 ไม่ก็ 120 แบบนี้ก็ตัดสินใจกันเอาเองแล้วกันครับ

และสุดท้ายที่ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ คือ แจ้งเตือนแรงดันไฟฟ้าต่ำ ปกติแบตเตอรี่จะมีแรงดันไฟฟ้าที่ 12.6V เราไม่ได้ต้องการวัดแรงดันไฟฟ้าของแบตครับ แต่เราต้องการรู้ถึงแรงดันไฟฟ้าที่เจเนอเรเตอร์ หรือไดชาร์ทถ้าสังเกตพอเราสตาร์ทรถแล้วดูแรงดันไฟฟ้าที่วัดได้จะเห็นว่า 14.2 +- 0.2 เอาเป็นว่า 14.2 แล้วกันนะครับถ้ามันเกิน 14.5ไปเมื่อไหร่ มีความผิดปกติแล้วครับ แล้วพอมันชาร์ทไปได้สักพักจะลดลงมา 13.5 +- นิดหน่อย แรงดันที่ 13.5 นี้เพียงพอกับเครื่องยนต์และระบบไฟในรถยนต์ ถ้าถอดแบตเตอรี่ออกรถก็ยังคงวิ่งต่อไปได้แต่ถ้าเราเร่งเครื่อง แรงดันมันก็จะลดลงแต่แค่ไหนแต่ละคันไม่เท่ากันต้องลองสังเกต (ผมจำไม่ได้เลยขอไม่เขียนไว้แล้วกัน) ซึ่งถ้ารถใหม่ ๆ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ก็ได้ แต่ถ้าใช้ไป 2XX,XX กิโลเมตรแล้ว ต้องเริ่มสังเกตก็ดีเพราะเจเนอเรเตอร์อาจจะไกล้มีปัญหาแล้ว 

ส่วนนี้เสริมให้นิดหน่อยสำหรับประโยชน์สำหรับรถติดแก๊ส เพราะผมก็ติดแก๊ส เลยเอามาใช้ดูค่า ST LT ว่าจูนแก๊สหนาหรือบ้างครับ ถ้าจะให้สังเกต เราไม่ใช่ช่างทักษะและประสบการณ์น้อยดูยาก มีค่าตัวเลขบอกแบบนี้ก็จะง่ายหน่อยในการจูนแก๊สครับ





วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ตั้งเบรคหลัง Swift เมื่อไหร่?

ระบบเบรคหลังของ swift 1.2 ไม่ค่อยเหมือนของทั่วไปเท่าไหร่ เวลาจะตั้งเบรคทำให้ต้องถอดล้อ และฝาครอบเบรคออกตามภาพนี้ ถึงจะทำการตั้งระยะเบรคได้


แต่ก่อนจะมากล่าวถึงการตั้งเบรคอาการที่จะรู้ได้ว่าเบรคหลังเราต้องตรวจสอบแล้วคือ เวลาเราเบรครถจะหน้าทิ่มเยอะมาก ๆ ก็เริ่มทำการตรวจสอบระยะเบรคหลังครับ ผมไม่ใช่ช่าง อาจจะมีความคิดที่ผิดไปไปบ้างถ้าผิดพลาดยังไง ก็เขียนบอกกันด้วยก็จะขอบคุณมากครับ

ผมกว่าจะได้วิธีทดสอบก็ลองมาหลายรอบ เพราะลืม วิธีการตรวจสอบเบื้องต้น คือตอนรถจอดในที่ราบ ให้เราปลดเบรคมือลงแล้วลองดึงเบรคมือได้กี่คลิ๊ก ถ้าต้องดึง 7 - 8 คลิ๊ก ก็ต้องทดสอบ อีกอย่าง คราวนี้ต้องใช้แม่แรงยกล้อหลังให้ลอย ดึงเบรคมือ 3 คลิ๊ก แล้วหมุนล้อได้ยินเสียงเบรคเสียดสีกับฝาครอบหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ยิน ลองต่อ คลิ๊กที่ 4 ถ้าคลิ๊กที่ 4 แล้วยังไม่เสียดสี หรือเสียดสีเพียงเล็กน้อย ต้องตั้งเบรคหลังแล้วครับ โดยในรูปมันเล็กไปหน่อย ผมจะอธิบายว่าเหล็กที่ถ่างผ้าเบรคจะมีสองอัน ตามภาพด้านซ้ายมันจะยาว ๆ ด้านขวามันจะโค้ง ๆ ให้เราใช้ไขควงแบนอันใหญ๋ ๆ หน่อยค่อย ๆ งัดให้มันห่างออกช้า ๆ เพียงแค่รองเดียวครับจะได้ยินเสียงเบา ๆ  แล้วลองใส่ฝาครอบกลับเข้าไปแล้วหมุนดู ว่ามันฝึดหรือเปล่า
จากที่ผมลองตั้งเองมาหลายรอบ เราจะกลับไปดึงเบรคมือ 3 คลิ๊กมันจะฝึดนิด ๆ ครับ แต่ต้องไม่มาก โดยตรวจสอบได้จากการดึงเบรคมือเพียง 1 คลิ๊กแล้วต้องไม่ได้ยินเสียงเลยถึงจะ ok เพราะไม่งั้นมันก็จะเสียดสีกันไปโดยเปล่าประโยชน์ และยังทำให้ผ้าเบรคสึก ฝาครอบสึกไปอีก 
ลองดูครับ ถ้าตั้งได้ตามที่บอก เวลาเราขับรถแล้วเบรครถมันจะไม่หน้าทิ่มมันจะยุบตัวลงพอดี ๆ ทั้งหน้าและหลังทำให้คนนั่งไม่เวียนหัวครับ 
ถ้าไม่ค่อยตั้งอาจจะตั้งยากหน่อยครับ แต่ถ้าได้ลงมือยังไงก็ไม่ยากเกินไปครับ

ถ้าตั้งเบรค อย่าลืมทาจารบีให้กับบริเวณผ้าเบรคเสียดสีกับโครงโดยครับ ไว้ทำรอบหน้าผมจะถ่ายรูปไว้ ถ้าไม่ลืม เพราะเวลาทำรถทีผมใช้เวลาเยอะ ตากแดดอีกต้องรีบเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567

ขุดเหรียญ doge

 

ผมเทรดเหรียญ ไม่ค่อย work เสียมากกว่าได้เลยคิดว่าหาทางขุดเหรียญดูเลยลองหาวิธีดูจึงพบว่ามีวิธีนี้อีก 1 วิธี ซึ่งทำบนมือถือได้ด้วย เข้าไปที่ WWW.dogebank.pro ซึ่งในหน้าแรกที่เห็นจะมีช่องให้ใส่ กระเป๋าเงินของเหรียญนี้ เราสามารถใช้กระเป๋าเงินของ Bitkub, Bitazza หรือของที่ไหนก็ได้ เข้าไปที่กระเป๋าเงินของเราดูที่เมนูฝากเหรียญแล้วกดสร้างเส้นทางแล้วก็ coppy มาใส่ในเว็บนี้ และก็กด start mining ได้เลยแล้วจะได้ตามภาพต่อไปนี้


ช่องที่ใส่ที่อยู่กระเป๋าเงินก็จะมีจำนวนเหรียญเพิ่มขึ้นที่ละเล็กที่ละน้อย 

ส่วนการถอนเหรียญจากภาพต่อไปนี้เป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งที่เห็น


ซึ่งถ้ากดปุ่ม Withdrawal แล้วก็จะเป็นดังภาพด้านบนนี้ จำนวนเหรียญตอนที่ผมกดคือ มีอยู่ 0.19 เหรียญ แต่ด้วยขั้นต่ำที่ถอนได้คือ 10 doge ตามภาพ ซึ่งข้อความอยู่ทางขวามือ 

ทางเว็ป ก็มีโบนัสให้เรากด ที่ปุ่มเขียนว่า Bonus ถ้ากดแล้วจะเห็นตามภาพนี้


และมีให้ดูโฆษณาเพื่อให้ได้เหรียญ กดที่ ADS แต่ผมกดดูโฆษณาไปหมดแล้วผมเห็นมี 3 อัน เวลาดูโฆษณา รอดูที่ด้านล่างของหน้าจอจะมีบอกให้บวกลบเลข หรือไม่ก็เป็นจุดให้นับ แล้วเราต้องกดคำตอบทางขวามือครับ


การขุดเหรียญในการนำเสนอครั้งนี้ผมไม่แนะนำให้ลงทุนใด ๆ เพราะไม่มีข้อมูลของเว็ปนี้ เฉพาะนั้นการลงทุนจึงมีความเสี่ยงที่ไม่ทราบได้

map versus



จากปัญหาที่ผมเจอคือ ท่อยางผมเก่าเลยเปลี่ยนหาซื้อได้มามันขนาดรูของท่อคือ 5 มม. ผมจะใส่ตรงช่องทางขาวของรูป (ในรูปมี 2 ช่องส่วนทางขวาสุดคือปลั๊กสายไฟ) ท่อยางที่ใช้ควรจะมีขนาด 3มม. มันเลยใส่แล้วไช้ไม่ได้คือหลวม คราวนี้ก็วิ่งหาซื้อไปดูตามร้านอะไหล่ยนต์ได้ท่อแว๊คคัมมาก็รูขนาดเดิม 5มม.  เลยต้องไปหาซื้อใหม่ ช่างแนะนำให้ไปดูร้าน มอเตอร์ไซต์ใช้ท่อน้ำมันก็ได้ พอไปดูผมก็ว่ามันใหญ่อยู่ดีเลยได้ท่ออากาศของมอเตอร์ไซต์มา ขนาดรู 3มม. ใส่ได้ 
          พอผ่านไปได้ 3 อาทิตย์ สรุปท่อแตกมันทนความร้อนไม่ได้ คราวนี้เลยซื้อท่อซิลิโคนมาขนาดรู 3มม. สรุปใส่ใช้งานได้ และพอผมเข้าศูนย์ซูซูกิ ผมก็จะฝากให้ช่างเปลี่ยนท่อที่เหลืออีกนิดหน่อย ช่างบอกใช้ไม่ได้เพราะเป็นท่อสำหรับอากาศ ไม่ใช่สำหรับแก๊ส ผมเลยถามทางร้านขาย ร้านก็บอกเหมือนกับทางศูนย์เลย คราวนี้ทำให้กังวลใจซิครับ ดีที่รู้จักกับช่างแก๊สอีกคน ผมเลยสอบถามดู เค้าก็แนะนำให้เปลี่ยนถ้าผ่านก็ให้แวะมาเอาไป เปลี่ยนเลยทำให้ผมเกิดความสงสัยว่า map มันมี 2 ช่อง แล้วจะสลับกันได้เปล่าถ้าลืม สรุปคือไม่ได้แต่ละข่องมันมีหน้าที่ของมัน ผมเลยมาเขียนไว้เดี่ยวผมจะลืม 

         รูทางขวามือคือ น่าจะวัดแรงดันแก๊ส ซึ่งจะต่อท่อยางไปยัง สามทาง ที่ท่อยางแก๊สตรงเซ็นเซอร์อุณหภูมิแก๊ส เพราะฉะนั้นท่อเส้นนี้จะโดนแก๊สและรับแรงดันแก๊สที่ปล่อยออกมาจากหม้อต้ม

         รูทางซ้ายมือคือ น่าจะวัดกำลังดูของเครื่องยนต์ซึ่งจะแบ่งเป็นสองทางคือ 1. ไปยังท่อร่วมไอดีเพื่อให้เกิดสูญญากาศ 2. ไปยังหม้อต้มเพื่อเกิดแรงดูที่แผ่นไดอะแฟรม 

         ดังนั้น ท่อยางจึงสลับกันไม่ได้เพราะเหตุนี้ จากที่พิมพ์ไปท่อยางที่เป็นซิลิโคนจึงใช้กับรูทางซ้ายมือได้เพราะไม่โดนแก๊สและไม่ได้รับแรงดันสูง

คราวนี้ผมว่าเป็นประโยชน์สำหรับผมและใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ 


ปล. ผมทำอีกอาชีพคือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ถ้าใครต้องการขาย/ซื้อ ทักมาได้ครับ ยินดีช่วยครับ
 

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567

เดาทาง XRP EP. 1

 


คาดการณ์ พรุ่งนี้วันที่ 22/3/24 น่าจะลงมาที่ 21.02 ลองตูซิว่าจะคาดการณ์ถูกหรือผิด 

ใช้มาหลายอินดิเคเตอร์แล้ว ลองคู่นี้ดูว่าจะเป็นยังไง แต่ที่ผ่านมาก็พลาดเยอะ 55555 เจ็บมาเยอะซะด้วย ไม่รู้รอบนี้จะคาดการณ์ผิดหรือถูก สุดท้ายมันก็เหมือนเล่นพนันจริง ใครไม่มีดวงเรื่องนี้ ผมว่ายังไงก็เจ็บ ผมไม่ค่อยมีโชคทางด้านพนันด้วยซิ ซื้อหวยยังไม่ค่อยจะถูกเลย ไม่ซิต้องบอกว่าแทบไม่ถูกเลย เลยไม่อยากซื้อ พอมาเดินทางนี้คิดว่าจะมีเครื่องมือช่วย มันก็ยังช่วยไม่ค่อยได้จริง ๆ 

วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

เครื่องวัดแก๊สรั่ว มีติดรถไว้ก็ดีนะ

วันนี้ขับรถพอระบบตัดเข้าแก๊ส ก็ได้กลิ่นแก๊ส เลยสลับไปใช้น้ำมัน พอกลับถึงบ้าน ก็สลับเข้าแก๊ส แล้วก็เอาเครื่องตรวจแก๊สมาหาแก๊สรั่ว สรุปตรงปลั๊กวัดอุณหภูมิแก๊ส ที่ด้านหลังมีท่อแว๊คคัม คงหักตรงนี้แหละเพราะตรวจแล้วคือตรงนี้ที่เครื่องร้อง ผมซื้อมาได้นานและ แต่เอาไว้ที่บ้าน สงสัยคงจะเอาเก็บไว้ในรถจะดีกว่าครับ 
ผมว่าราคาไม่น่าแพงแล้วเดี๋ยวนี้.ดีกว่าใช้น้ำผสมน้ำยาล้างจานครับ สะดวกกว่าและไม่เลอะเทอะด้วยครับ
และบางทีจมูกเราไม่ดี แต่เรายังมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบได้ครับ

วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567

ขับขึ้นเหนือควรมีติดรถไว้ OBD2

เมื่อสักครู่เขียนเรื่องเตรียมรถเดินทางไกล เลยนึกขึ้นได้ควรเขียนเรื่อง OBD2สักหน่อย 
สนใจเขียนคอมเม้นต์บ้างก็ดีนะครับถ้าแวะมาอ่าน เดี่ยวจะเขียนต่อครับ